ต้องบอกอย่างงี้ค่ะว่า คอนเทนต์แต่ละประเภทจะมีวิธีวัดคุณภาพที่ต่างกันไป ซึ่งคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ จะมีค่าหนึ่งที่บอกได้ว่าวิดีโอนี้มีคุณภาพดี จนขนาดที่ว่าคนดูคลิปนานจนเกือบจบคลิป นั่นก็คือ Audience Retention แผนภาพแสดงจำนวนของผู้ชมว่าเขาชมในระยะเวลาเท่าไหร่กันบ้าง โดยจำนวนผู้ชมจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์
ยกตัวอย่างวิดีโอของคนเขียนเองค่ะ วิดีโอนี้มีความยาวอยู่ที่ 1.52 นาที มีคนดูคลิปไปจนถึงช่วงกลางที่เวลา 0.58 นาที อยู่ที่ 39% ซึ่งมาตรฐานวิธีการตั้งค่าเพื่อวัดผลคร่าว ๆ คือ ต้องคงคนดูไว้ที่ราว ๆ 30% ก่อนเข้า End Scene ก็ถือว่าเก่งมาก ๆ แล้ว เพราะคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ บางครั้งแค่ยอดวิว ยอดคลิก (Click-through rate) มันไม่ได้การันตีว่าของเรามันดีจริง เพราะหากคนคลิกเข้ามาดูคลิปเป็นล้านวิวก็ตาม แต่หากคนดูไม่ได้เห็นสินค้า ไม่ได้ดูจนจบคลิปจริง ๆ เพราะว่าสินค้าของเราอยู่ช่วงกลางคลิป วิดีโอนั้นก็ไม่ได้ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ในทางกลับกันหากตอนพูดถึงสินค้ามีคนดูเกิน 30% ก็เป็นการการันตีการพบเห็นสินค้าที่แท้จริงหรือ True Views ได้
ดังนั้นปัญหามันก็คือว่า หากเราเป็นครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างตัวตน สร้างแบรนด์ในอนาคต การที่เราจะหันมาโฟกัสยอด Audience Retention ควบคู่ไปกับยอดวิวนั้นดีแน่นอน เพราะเราคงไม่อยากให้คนแค่คลิกเข้ามาดูแล้วก็คลิกออกไปในทันที ส่วนคนที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ นักรีวิวนั้น ก็ยิ่งต้องโฟกัสการทำวิดีโอที่เน้นยอด Audience Retention เพราะลูกค้าหรือแบรนด์ต่าง ๆ ที่มาจ้างเรารีวิวสินค้า เขามักจะอยากเห็นยอด เปอร์เซ็นต์ที่คนดูคลิปจนจบ เผลอ ๆ มากกว่ายอดวิวเสียอีกค่ะ
ถามว่าการปั้นยอด Audience Retention เนี่ย มันเป็นเรื่องของการตลาดเพียว ๆ หรือเปล่า ? คำตอบคือไม่ใช่นะคะ เพราะว่ายอด Audience Retention เป็นศิลปะที่รวมกันระหว่างการตลาดและการตัดต่อวิดีโอด้วย โดยจุดมุ่งหมายก็คือ การทำให้คนใช้เวลาในการดูวิดีโอเราให้นานที่สุด ซึ่งเป็นตัวบอกว่าคนที่เสิร์ชวิดีโอของเราเจอ เมื่อคลิกเข้ามาดูแล้วใช้เวลาไปเท่าไหร่ โดยค่านี้ยิ่งเยอะก็จะยิ่งดี เพราะมันการันตีได้ว่าคลิปของเรามันดีจริง ๆ และ YouTube เองก็จะใช้ค่านี้แหละเป็นหนึ่งตัวชี้วัดว่าวิดีโอของเรามีคนชอบดูจริิง นำไปสู่การแนะนำวิดีโอให้ปังยิ่งขึ้นค่ะ
วางโครงเรื่องให้ตรงกับ Search Intent ให้นึกตามง่าย ๆ ว่า สมมติเรากดเข้าไปดูวิดีโอเกี่ยวกับผัดกะเพราง่าย ๆ สไตล์เด็กหอ แต่ปรากฏว่าเนื้อหาในวิดีโอมันไม่ตรงปก กลายเป็นว่าเขาผัดหมูผัดกะปิให้เราดู แน่นอนว่าเมื่อเนื้อหามันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราก็กดออก ได้ยอดวิวแต่ไม่ได้ Watch Time ดังนั้นอย่าถ่ายไปก่อนโดยไม่วางโครงเรื่อง หวังจะไปพึ่งแต่การแต่ง Title ใส่ Keyword ทำ SEO ทีหลัง จนทำให้อัลกอริทึมของ YouTube พาคนมาดูได้สำเร็จ แต่ถ้าเมื่อคนดูดูแล้วไม่เจอสิ่งที่ต้องการ เขาก็อาจจะไปหาวิดีโอช่องอื่นแทน ท้ายที่สุด YouTube ก็จะแนะนำวิดีโอของเราน้อยลง ซ้ำร้ายคนดูเขาก็อาจมีอคติเชิงลบกับช่องของเราได้
การทำวิดีโอจะไม่เหมือนการกินก๋วยเตี๋ยวที่ต้องเก็บลูกชิ้นหรือของอร่อยไว้กินตอนท้ายนะคะ เวลาจะตัดต่อวิดีโอให้เราเอาช็อตที่เจ๋ง จ๊าบ เริ่ดที่สุดมาไว้ช่วงแรก ๆ เพื่อบอกให้คนที่เข้ามาดูให้รู้ไปเลยว่า พวกเขาจะได้เห็นอะไรที่เป็น highlight ที่สุดของวิดีโอ เช่น วิดีโอสอนวาดรูป ก็ให้ตัดช็อตรูปที่วาดเสร็จเรียบร้อยแล้วมาไว้ช่วงแรกเลย หรือวิดีโอลดน้ำหนักก็ต้องทำให้เห็นความแตกต่างก่อน-หลังลดน้ำหนักให้ชัดแจ๋ว การเริ่มต้นวิดีโอด้วย Hook จะช่วยเพิ่มโอกาสที่คนเสิร์ชเจอจะดูต่อจนจบได้ โดยเทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ คือ
เทคนิคการตัดต่อวิดีโอให้คนดูนาน ๆ จนจบไม่ว่าจะเป็นวิดีโอยาวหรือวิดีโอสั้น ก็คือการทำให้คนดูดูต่อไปเรื่อย ๆ จนกราฟ Audience Retention ไต่ขึ้นเรื่อย ๆ นอกเหนือจากการทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ เปิดวิดีโอได้น่าดึงดูด ทำทัมเนลได้สวย วิธีการตัดต่อก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยดึงคนไว้นาน ๆ ได้ด้วยวิธีตัดต่อให้วิดีโอสมูท ดังนี้
เพราะว่าวิดีโอยาว ๆ ที่เวิร์คนั้นมีอยู่กลุ่มเดียวก็คือ วิดีโอเกม เนื่องจากคนดูต้องการรู้ผลลัพธ์สุดท้าย แต่สำหรับวิดีโอส่วนใหญ่ สถิติการดูยาว ๆ แบบวิดีโอเกมจะเข้าถึงได้ยาก ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ที่จะสามารถเพิ่มยอด Watch Time ให้เยอะขึ้น รวมถึงยอด Audience Retention เพิ่มเปอร์เซ็นต์ให้คนดูดูวิดีโอจนจบมากขึ้นได้ก็คือ ‘การทำวิดีโอให้สั้นลง’ บางครั้งคำแนะนำที่ดีที่สุดในการตัดต่อวิดีโอก็คือเราต้องรู้จักตัดทอนส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องออกไป เพื่อรักษาคนดูเอาไว้ให้เขาดูวิดีโอไปจนจบ อย่างตอนนี้สถิติการดูยูทูบเฉลี่ยอยู่ที่ 3 นาทีเท่านั้น และอื่น ๆ ดังนี้
เป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ที่เราจะต้องเชี่ยวชาญการตัดต่อวิดีโอด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและไม่แพง อย่างการตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือเครื่องเดียวที่เหมาะกับการตัดต่อวิดีโอง่าย ๆ ทำคลิปลง YouTube, Facebook หรือว่า TikTok ใครสนใจเรียนคอร์สตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือเครื่องเดียว เรียนรู้การทำวิดีโอเพิ่มยอด Watch Time และ Audience Retention เพิ่มเปอร์เซ็นต์ยอดดูวิดีโอให้พุ่ง สรุปขั้นตอนพร้อมเทคนิคลับ ใช้เวลาเรียนไม่นาน การันตีทำได้ 100% คลิกที่นี่
ที่มาข้อมูล